
การรักษา 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. ความร้อนบำบัด (Thermo therapy)
– เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
– เกิดการแลกเปลี่ยนสารอาหารผ่านหลอดเลือดฝอยมากขึ้น
– เกิดผลของการลดระดับความเจ็บปวด( จากการกระตุ้นเส้นประสาทที่รับความรู้สึกร้อนและเย็น แทนเส้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวด)
– ทำให้สารอาหารไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์มากขึ้น
– ลดความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
– เพิ่มการทำงานของปฎิกิริยาเคมีในเซลล์ เพิ่มอัตราการใช้ออกซิเจนของเซลล์ ทำให้เอนไซม์ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
– เพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและข้อต่อ
– เพิ่มอัตราการนำกระแสประสาท และเพิ่มคุณสมบัติการยืดตัวของ เอ็นกล้ามเนื้อ
– เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ collagenase ลดการยึดติดของข้อต่อ
2. ฟื้นฟูร่างกายด้วยไฟฟ้า (Electro therapy :Neuromuscular electrical stimulators )
– เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (musclestrengthening)
– ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ (spasm reduction)
– ชะลอหรือป้องกันการฝ่อลีบของกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากการไม่ได้ใช้งาน (disuse atrophy prevention)
– เกิดเรียนรู้การทำงานของกล้ามเนื้อ (muscle re‐education) ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างถูกต้อง
– เร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ
– ลดปวด
3. บำบัดด้วยคลื่นเสียง (ultrasound therapy )
– คลื่นเสียงจะผ่านเนื้อเยื่อ ส่งผลให้โมเลกุลเนื้อเยื่อดูดซับพลังงานไว้แล้วปล่อยเป็นความร้อนลึกออกมาที่ 2-5 เซนติเมตรใต้ผิวหนัง การใช้ทางคลินิก เช่น เพิ่มคุณสมบัติการยืดและความยาวของเนื้อเยื่อที่ตึงก่อนยืด ลดปวดกลุ่มโรคกล้ามเนื้อและข้อต่อ เร่งกระบวนการซ่อมเเซมเนื้อเยื่อ ลดการอักเสบของกระดูกและข้อ
4. จัดและปรับกระดูกข้อต่อ (manual therapy )
– เทคนิคการจัดโครงสร้างร่างกาย จัดกระดูก จัดข้อต่อ จัดกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการปวด เพื่อคืนความสมดุลให้แก่ร่างกาย

ข้อดีของการจัดกระดูก : คอ บ่า ไหล่
- กล้ามเนื้อคอบ่าไหล่แข็งแรงขึ้น
- อาการปวดคอบ่าไหล่
- บุคลิคภาพดีขึ้น
- อาการไหล่งุ้ม คอยื่น ไปด้านหน้า ลดลง
- ลดอาการปวดหัว ไมเกรน